ยางมอเตอร์ไซค์ เทคนิคการเลือกที่เหมาะกับการใช้งานของคุณ?

ยางมอเตอร์ไซค์

ยางมอเตอร์ไซค์ เป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่งในการขับขี่ เพราะยางรถนั้นเป็นสิ่งเดียวที่เชื่อมระหว่างรถจักรยานยนต์และถนน ทำหน้าที่ในการถ่ายทอดกำลังเครื่องยนต์สู่พื้นถนน ยึดเกาะถนน ตอบสนองการขับขี่ ไม่ว่าจะเป็นการเร่งความเร็ว การเลี้ยว การเบรก อีกทั้งยังทำหน้าที่รับน้ำหนักของทั้งตัวรถจักรยานยนต์และผู้ขับขี่ ดังนั้นการเลือกยางที่เหมาะกับการใช้งานของคุณจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ประเภทของยางรถจักรยานยนต์

หากพูดถึงการเลือกซื้อ ยางรถมอเตอร์ไซค์ นั้น มักจะหนีไม่พ้นในเรื่องของ ความหนึบ และความทนทานของยาง ถ้ายางมีความหนึบมากเท่าไร เนื้อยางจะยิ่งอ่อนมากขึ้นเท่านั้นอัตราการสึกหรอของยางที่สูงขึ้นนั่นเอง แต่อีกหนึ่งเรื่องที่ควรทราบก็คือ ยางรถมอเตอร์ไซค์ ไม่ได้มีแค่ประเภทเดียวนะเรามาดูกันว่ายางรถมอเตอร์ไซค์ มีแบบไหนบ้าง แนะนำติดตามข่าวสารอัพเดตล่าสุดได้ที่ เปิดตัวรถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า 5 รุ่นใหม่ที่พร้อมขาย!!

ยางมอเตอร์ไซค์ สามารถแบ่งออกได้เป็น 6 ประเภทหลัก ๆ ด้วยกัน ซึ่งแต่ละประเภทนั้นเหมาะกับการใช้งานมอเตอร์ไซค์ที่แตกต่างกันไป บางชนิดอาจจะเหมาะกับการใช้งานที่ถึกทน และบางชนิดอาจจะเหมาะกับรถแข่ง โดยแต่ละประเภท ได้แก่

ยางมอเตอร์ไซค์

1. Road Tyre

เป็นยางรถมอเตอร์ไซค์ที่หลายคนเลือกใช้ เหมาะกับการขับขี่ทั่วไปบนทางเรียบ มีหลากหลายแบรนด์ให้เลือกใช้ วัสดุหลัก รูปแบบ ลวดลายและหน้าตาของดอกยางนั้นจะแตกต่างกันไป สามารถยึดเกาะถนนได้ดี มีดอกยางที่ช่วยรีดน้ำ เศษฝุ่น เศษสิ่งสกปรกต่างๆ ได้เป็นอย่างดี

2. Sport-Touring

เป็นยางอีกหนึ่งชนิดที่เหมาะขับขี่โดยทั่วไปในชีวิตประจำวัน สามารถใช้ได้บนถนนทั้งเรียบและขรุขระ เส้นทางที่ไม่สม่ำเสมอได้เป็นอย่างดี เนื้อยางค่อนข้างแข็ง ไม่อ่อนนุ่มจนเกินไป อัตราการสึกหรอต่ำ ร่องยางลึก สามารถรีดเศษดินหรือโคลนออกได้ อายุการใช้งานค่อนข้างยาวถึง 20,000 กิโลเมตร แต่ไม่เหมาะกับการขับขี่ที่ใช้ความเร็วสูงหรือพื้นที่ขรุขระมากจนเกินไป

3. Cruiser

ยางที่ออกแบบมาเพื่อใช้กับรถประเภทครุยเซอร์ หรือรถขนาดใหญ่ที่เห็นกันคุ้นตาก็บิ๊กไบค์ มีความหนึบของยางปานกลาง มีหน้ายางที่กว้างและใหญ่กว่ายางประเภทอื่น สามารถรองรับน้ำหนักของรถได้ มีความแข็งแรงทั้งตัวเนื้อยางและโครงสร้าง ช่วยในการยึดเกาะถนนและควบคุมตัวรถได้ง่ายมากขึ้น แต่ไม่เหมาะกับการขับลุยดินลูกรัง

4‍. Sport / Hyper-Sport

เป็นยางรถมอร์เตอร์ไซค์ที่ให้  ผิวสัมผัสนุ่มที่สุด อีกทั้งยังหนึบและมีความทนทาน มีประสิทธิภาพในการยึดเกาะถนนได้เป็นอย่างดี มีความเสถียรของการหมุน เนื่องจากมีดอกยางจำนวนมาก  ยางประเภทนี้เหมาะกับรถมอเตอร์ไซค์สำหรับการแข่งขัน และการขับขี่บนทางเรียบเป็นหลัก

5. Off-road

เป็นยางประเภทที่มีความยืดหยุ่น มีดอกยางน้อย แต่มีร่องยางที่ลึกมากกว่ายางประเภทอื่นๆ สามารถช่วยรีดน้ำและเศษดินได้มากขึ้น อาจรู้จักกันในชื่อ ยางหนาม หรือกึ่งหนาม เหมาะกับมอเตอร์ไซค์วิบาก มักถูกใช้คู่กับยางในและล้อแบบซี่ลวด เพื่อช่วยลดแรงกระแทกจากการกระโดด และลดแรงเสียดทานระหว่างวงล้อและตัวยาง​​

6. Slick

ยาง Slick หรือที่เรียกกันว่ายางสลิค เป็นยางที่ให้ความหนึบมากที่สุดในทุกประเภท มักถูกใช้ในรถมอเตอร์ไซค์สำหรับแข่งขัน ไม่เหมาะกับการใช้ขับขี่บนถนนสักเท่าไรนัก ยางสลิคนั้นไม่มีโครงยาง เนื้อยางอ่อนนุ่ม และไม่มีดอกยางจึงไม่เสียพื้นที่ผิวสัมผัสระหว่างพื้นถนนเลย อีกทั้งสามารถเอียงรถได้จนถึงขีดจำกัดเนื่องจากขอบยางของยางสลิคจะสูงจากพื้น แต่ความทนทานของยางประเภทนี้ต่ำมาก สามารถวิ่งได้เพียง 300-400 กิโลเมตรเท่านั้น และค่อนข้างอันตรายหากขับขี่ในระหว่างฝนตก หรือน้ำขัง เพราะไม่มีดอกยาง อีกทั้งยังอ่อนไหวต่ออุณหภูมิสภาพแวดล้อมอย่างมาก

อายุการใช้งานและระยะวิ่งของยางมอเตอร์ไซค์ที่สมควรเปลี่ยน

อายุการใช้งานของยางรถมอเตอร์ไซค์โดยเฉลี่ยเเล้วจะใช้งานได้ประมาณ 1-2 ปี หรือระยะทาง 10,000-20,000 กิโลเมตร ไปจนถึง 3-5 ปี หรือระยะทาง 40,000 – 50,000 กิโลเมตร ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย เช่น ลักษณะการใช้งานรถมอเตอร์ไซค์ พฤติกรรมการขับขี่ สภาพพื้นถนน รวมถึงประเภทของยางมอเตอร์ไซค์ที่ใช้ด้วย

สำหรับประเภทของยางมอเตอร์ไซค์ที่ใช้งานทั่วไปก็จะมีทั้ง ยางที่มีเนื้อค่อนข้างนิ่ม มีข้อดีคือสามารถยึดเกาะถนนได้ดี มีความปลอดภัยสูง เหมาะกับการขับขี่ในระยะทางไกล ส่วนข้อควรระวังคือสึกหรอได้เร็วกว่า กับอีกประเภทคือยางมอเตอร์ไซค์ที่มีเนื้อแข็ง ให้ความแข็งแรงทนทาน รับน้ำหนักได้มาก เหมาะสำหรับการขับขี่ทั่วไป

จุดสังเกตยางมอเตอร์ไซค์เป็นแบบไหนถึงได้เวลาเปลี่ยนยาง

  • หน้ายาง ความแข็งของหน้ายางเป็นสิ่งแรกที่ควรตรวจเช็ก เพื่อดูว่ายางรถมอเตอร์ไซค์ยังมีประสิทธิภาพการยึดเกาะที่ดีหรือไม่ ซึ่งวิธีตรวจเช็กนั้นสามารถทำได้ง่ายๆ ด้วยการใช้เล็บมือจิกลงบนหน้ายางตรงๆ ถ้าจิกได้ง่ายๆ แสดงว่ายางมอเตอร์ไซค์ของเรายังสามารถใช้งานได้ปกติดี แต่ถ้าหน้ายางแข็งจนจิกไม่เข้าเลย แสดงว่ายางมอเตอร์ไซค์หมดอายุการใช้งานแล้ว ตัดใจเปลี่ยนยางมอเตอร์ไซค์เส้นใหม่ได้เลย
  • ดอกยาง สังเกตด้วยตาเปล่าได้เลยว่าลายดอกยางมอเตอร์ไซค์ยังชัดอยู่หรือไม่ ถ้าชัดเจนดีก็แสดงว่ายางมอเตอร์ไซค์ยังสามารถใช้งานได้ดี หรือจะเช็กความลึกด้วยการใช้นิ้วก้อยเสียบลงไประหว่างร่องดอกยาง ถ้าลึกประมาณครึ่งนิ้วก้อย (ประมาณ 3-4 มิลลิเมตร) แสดงว่าสภาพยังดีอยู่ แต่ถ้าดอกยางไม่ลึกเท่าเดิมหรือเริ่มดูจางลงไปให้เช็กอย่างละเอียดด้วยการดูสะพานยาง
  • สะพานยาง หรือร่องที่พาดผ่านตรงกลางของหน้ายางจากด้านหนึ่งไปอีกด้านหนึ่ง เป็นจุดสังเกตความหนาของเนื้อยางมอเตอร์ไซค์ว่ายังอยู่ในระดับที่เหมาะสมหรือไม่ ถ้าสะพานยางเริ่มตื้นแปลว่ายางเริ่มสึกหรอแล้ว เจ้าของรถควรเปลี่ยนยางมอเตอร์ไซค์ได้แล้ว

นอกจากเลือกประเภทยางที่เหมาะสมกับการใช้งานของคุณแล้ว ยังมีปัจจัยอื่นที่คุณควรพิจารณาด้วย เช่น การเลือกขนาดยางให้เข้ากับขนาดล้อ ความสามารถในการรับน้ำหนักของยาง อีกทั้งควรเลือกดูดอกยางและลักษณะยางด้วยไม่ว่าคุณจะใช้ยางประเภทไหนก็ตาม คุณควรทำการตรวจเช็คสภาพยางอย่างสม่ำเสมอ โดยการดูดอกยาง หากดอกยางเริ่มบาง ผิวเริ่มเรียบ หรือมีรอยปริแตกต่างๆ คุณควรทำการเปลี่ยนยางทันทีเพื่อความปลอดภัยในการขับขี่ของคุณ สำหรับรถมอเตอร์ไซค์ทั่วๆ ไปมักจะมีอายุการใช้งานอยู่ที่ 10,000-20,000 กิโลเมตร ขึ้นอยู่กับสภาพแวดล้อม เช่น สภาพอากาศ อุณหภูมิ รวมไปถึงการใช้งานของคุณด้วย

ขอบคุณแหล่งข้อมูลจาก: www.tpa.or.th, www.greatbiker.com,www.yamaha-motor.co.th

ขอบคุณภาพจาก: www.freepik.com

ติดตามข่าวสารอัพเดตล่าสุดได้ที่: lachoppersbkk อัพเดทข่าวสารจักรยานยนต์

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
จักรยานยนต์

มอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า นวัตกรรมรถอีกหนึ่งยานพาหนะแห่งโลกอนาคต

ปัจจุบันนี้เทรนด์ที่กำลังเป็นกระแสนกับการใช้พลังงานไฟฟ้ […]

Read More
รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า
จักรยานยนต์

รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า เปิดตัว 5 รุ่นใหม่ที่พร้อมวางจำหน่าย!!

มาตรการการสนับสนุนยานยนต์ไฟฟ้าและ รถมอเตอร์ไซค์ไฟฟ้า ที […]

Read More